ข้อกำหนดในการปฏิบัติต่อนักเรียนด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ
(Professional Code of Conduct)
เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนทุกคน บนพื้นฐานของการเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน การปฏิบัติต่อนักเรียนจึงต้องเป็นไปในแนวทางที่เหมาะสม บุคลากรโรงเรียนไม่ว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติต่อนักเรียนฉบับนี้อย่างเคร่งครัด
1.แนวทางการปฏิบัติทั่วไป
บุคลากรโรงเรียนต้องปฏิบัติต่อนักเรียนด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ บนพื้นฐานของการเคารพให้เกียรติ
และความเสมอภาค โดยมุ่งหมายให้นักเรียนเกิดการพัฒนาและการเรียนรู้เป็นสำคัญ แนวทางการปฏิบัติทั่วไป
มีดังต่อไปนี้
1. ปฏิบัติต่อนักเรียนอย่างมืออาชีพ มี จรรยาบรรณ และด้วยความเคารพและให้เกียรติ
2. ปฏิบัติต่อนักเรียนด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่คำนึงถึง เพศ อายุเชื้อชาติสัญชาติศาสนา และสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัว
3. ใช้ ความรักเมตตาในการปรับพฤติกรรมนักเรียน และไม่ใช้ ความรุนแรงทุกประเภทไม่ว่าด้วยวาจาหรือด้วยการกระทำ โดยเฉพาะในการลงโทษนักเรียน
4. รักษาสถานภาพครูอย่างชัดเจน และไม่ติดต่อสัมพันธ์กับนักเรียนทางสื่อสังคมฉันเพื่อน เช่น ชมภาพยนตร์ เที่ยวเตร่ด้วยกัน
5. ชมเชย เสริมแรง และให้กำลังใจ และไม่ใช้วาจาในเชิงเสียดสี ดูหมิ่น ล้อเลียน หมิ่นประมาทนักเรียน
6. ต้องช่วยเฝ้าระวังและปกป้องนักเรียนด้วยการรายงานผู้รับผิดชอบโดยพลัน หากพบเห็นหรือรับรู้การล่วงละเมิดใดๆ
7. ไม่ดื่มเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในขณะที่ปฏิบัติงานอยู่ หรืออยู่ในเวลาทำงาน
8. ไม่คุกคาม ทะเลาะวิวาท หรือข่มขู่บุคคลอื่นภายในบริเวณโรงเรียน
9. ไม่ใช้สถานะบุคลากรโรงเรียนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือก่อให้เกิดความเสื่อมเสียทางชื่อเสียงของโรงเรียน หรือของตนเองอันส่งผลต่อชื่อเสียงของโรงเรียน
10. ไม่แสดงความอันเป็นเท็จ หรือทำให้ผู้อื่นสำคัญผิดในตำแหน่ง คุณสมบัติหรือประสบการณ์ของตนทั้งนี้ บุคลากรโรงเรียนจะต้องคำนึงถึงจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนเป็นหลัก และยกระดับมาตรฐานความประพฤติของตนเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ โดยไม่นำความคิดเห็นและอารมณ์ที่ไม่สร้างสรรค์เป็นบวกเข้ามาเกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีที่มีข้อสงสัยว่า การปฏิบัติต่อนักเรียนลักษณะใดถือเป็นการปฏิบัติที่เหมาะสม หรือไม่ ให้ขอคำปรึกษาจากคณะทำงานในการปกป้องคุ้มครองนักเรียน เพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะปฏิบัติต่อนักเรียนในลักษณะดังกล่าว
2.การปฏิบัติด้านความปลอดภัย
บุคลากรโรงเรียนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียนเป็นอันดับแรก และต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
1. ศึกษาและทำความเข้าใจในขั้นตอนและข้อตกลงเรื่องความปลอดภัยในสวัสดิภาพของนักเรียน และเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติและริเริ่มเสนอแนะในการปรับปรุงอยู่เสมอ
2. ต้องรักษาความลับ และความเป็นส่วนตัวของนักเรียกเว้นแต่จำเป็นต้องเปิดเผยต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในกรณีเป็นที่สงสัยว่านักเรียนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยในสวัสดิภาพ
3. เฝ้าระวังสอดส่องและช่วยกันสังเกตบุคคลภายนอกที่มีพฤติการณ์น่าสงสัย หากพบบุคคลเช่น ว่านั้นจะต้องแจ้งพนักงานรักษาความปลอดภัยให้ตรวจสอบ
4. แจ้งบุคคลผู้รับผิดชอบโดยเร็ว ในกรณีบุคลากรโรงเรียนผู้ใดมีข้อสงสัยว่านักเรียนไม่มีความปลอดภัยในสวัสดิภาพ หรือได้รับการปฏิบัติที่ผิด ที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย
5. ไม่นัดพบนักเรียนในสถานที่อื่นนอกจากโรงเรียน รวมถึงการนัดเรียนพิเศษ โดยมิได้รับอนุมัติอย่างชัดแจ้งจากโรงเรียนและมีเหตุอันสมควร
6. ไม่ใช้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีไว้สำหรับนักเรียนไปในทางที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของนักเรียน อาทิ ห้องน้ำสำหรับนักเรียน หรือห้องแต่งตัวสำหรับนักเรียน เป็นต้น
3.พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
พฤติกรรมทางเพศของบุคลากรโรงเรียนกับนักเรียน เป็นสิ่งไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย บุคลากรโรงเรียนจึงต้องปกป้องคุ้มครองนักเรียนจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทางเพศใดๆ และต้องปฏิบัติตน ดังนี้
1. ไม่ปฏิบัติสิ่งใดๆ ไม่เหมาะสมทางเพศต่อนักเรียน แม้ว่าการปฏิบัตินั้นอาจจะผิดกฎหมายหรือไม่ก็ตาม โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเกี่ยวกับอายุเพศ
2. ไม่อยู่ในที่ลับตาผู้อื่นกับนักเรียนตามลำพัง เว้นแต่ในกรณีจำเป็น เช่น การสอบสัมภาษณ์ทั้งนี้การอยู่ตามลำพังดังกล่าวจะต้องอยู่ในสถานที่ที่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ง่าย
3. ไม่ใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมในเชิงอนาจาร หรือทำให้นักเรียนรู้สึกอับอาย หรือส่อไปในทางเพศสัมพันธ์
4. ไม่ปฏิบัติต่อนักเรียนโดยมีเจตนาซ่อนเร้นหรือโดยชัดแจ้ง อันส่อถึงเจตนาที่ไม่สมควรทางเพศ เช่นการประพฤติในเชิงชู้สาวไม่ว่าจะอยู่ภายในบริเวณโรงเรียนหรือไม่ก็ตาม
5. ในกรณีที่พบเห็นว่า บุคลากรโรงเรียนคนใดมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทางเพศ จะต้องแจ้ งคณะทางานในทันที
4.การสัมผัสทางกายภาพ
บุคลากรโรงเรียนต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพด้วยวิธีใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้พบเห็น ไม่อยู่กับนักเรียนสองต่อสองในที่ลับตา ไม่ถูกเนื้อต้องตัว หยอกล้อ หรือเจตนาทำร้ายร่างกาย เว้นแต่เป็นไปเพื่อการเรียนการสอนตามหน้าที่ เช่น กิจกรรมกีฬา ดนตรี ทั้งนี้ต้องทำเท่าที่จำเป็นเพื่อการพัฒนาทักษะและต้องใช้ความระมัดระวังตามหน้าที่จรรยาบรรณวิชาชีพ ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการสัมผัสทางกายเกิดขึ้น บุคลากรโรงเรียนรายดังกล่าวจะต้องปฏิบัติดังนี้
1. จะต้องคิดไตร่ตรองถึงเหตุจำเป็นในการสัมผัสเช่นว่านั้นอย่างมืออาชีพในฐานะครูกับศิษย์
2. จะต้องมีคำอธิบายถึงความจำเป็นดังกล่าวได้
3. จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดมิให้เป็นการกระทำอนาจารต่อนักเรียน
4. การสัมผัสดังกล่าวจะต้องเป็นไปเท่าที่จำเป็นและกระทำด้วยความอ่อนโยนโดยคำนึงถึง
สภาพร่างกายและจิตใจของนักเรียนเป็นสำคัญ
5.การปฏิบัติผ่านสื่อออนไลน์(Social Media & Online Contact)
แม้ว่าโรงเรียนให้การสนับสนุนการใช้สื่อออนไลน์ในฐานะเครื่องมือแห่งการเรียนรู้ แต่การติดต่อสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ส่วนตัวอาจก่อให้เกิดความสับสนและความไม่เหมาะสมระหว่างนักเรียนและบุคลากรโรงเรียนได้ดังนั้น บุคลากรโรงเรียนจึงต้องนำแนวทางการประพฤติปฏิบัติข้างต้นมาใช้กับการปฏิบัติใดๆ ที่ดำเนินผ่านสื่อออนไลน์ด้วย และติดต่อกับนักเรียนผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อสนับสนุนการเรียนในโรงเรียนและกิจกรรมของโรงเรียนเท่านั้น
บุคลากรโรงเรียนต้องทำให้ แน่ใจว่า นักเรียนจะไม่สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ส่วนตัวของตนได้โดยแยกสื่อออนไลน์สำหรับการเรียนการสอนออกจากเรื่องส่วนตัวอย่างชัดเจน
บุคลากรโรงเรียนตระหนักว่า คู่มือปฏิบัติไม่สามารถเขียนแยกแยะข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามที่ครอบคลุมในทุกกรณีได้เพียงแต่วางแนวทางและความคาดหวังขั้นต่ำไว้บุคลากรโรงเรียนจึงต้องใช้ดุลยพินิจด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพในการกำหนดพฤติกรรมของตนเอง ทั้งนี้ก่อนเริ่มปีการศึกษา หรือก่อนเริ่มเข้าทางานใหม่กับโรงเรียน บุคลากรโรงเรียนทุกคนต้องลงนามเพื่อรับรองคำสัญญาในการปฏิบัติต่อนักเรียนตามเอกสารใน
ภาคผนวก ง. คำสัญญาของบุคลากรโรงเรียนในการปฏิบัติต่อนักเรียน
Link เพื่อแชร์ : https://1th.me/NqcAn